โหนดโรงเรียน
โหนดโรงพยาบาล
โหนดผู้ผลิต-ตลาดเขียว
โหนดผู้บริโภค
กิจกรรมโครงการ
รายชื่อภาคี
ภาพบรรยากาศภาคีเครือข่ายแผนอาหารเพื่อสุขภาวะร่วมบูรณาการความรู้ประเด็นอาหารกับงานชุมชน ในงาน "สานพลัง สร้างวัฒนธรรมสู่สุขภาวะชุมชนที่ยั่งยืน” ซึ่งจัดโดยสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน (สำนัก 3) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ณ อิมแพคเมืองทองธานี เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยนำเสนอรูปแบบการจัดการระบบอาหารในระดับชุมชนท้องถิ่นต่าง ๆ ให้ผู้นำชุมชนเรียนรู้ผ่านฐานการเรียนรู้ในห้องย่อย ซึ่งได้รับความสนใจจากแกนนำชุมชนที่เข้าร่วมรับฟังและซักถามเพื่อนำประสบการณ์ที่ได้รับไปพัฒนาการดำเนินงานในพื้นที่ของตนเป็นอย่างมาก
โดยโครงการขยายผลและขับเคลื่อนรูปแบบการดำเนินงานระบบอาหารเพื่อสุขภาวะอย่างยั่งยืนในจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์นำเสนอฐานการเรียนรู้รูปแบบการจัดการระบบอาหาร "สงขลาโมเดล" โครงการขยายและพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการจัดการระบบอาหารสุขภาวะเพื่อสร้างเครือข่ายสุขภาพดี มูลนิธิเอ็มโอเอไทย ได้นำเสนองานขับเคลื่อนอาหารปลอดภัยในจังหวัดเชียงรายที่เชื่อมโยงระหว่างโรงพยาบาล บ้าน วัด โรงเรียนและชุมชน โดยมีจุดเริ่มต้นจากคนในพื้นที่ที่ป่วยด้วยโรคติดต่อไม่เรื้อรัง (NCDs) เช่น มะเร็ง เบาหวาน ความดัน ประกอบกับนโยบาย Green & Clean Hospital ของกระทรวงสาธารณสุข ทำให้โรงพยาบาลเกิดแนวคิดเชื่อมโยงกับชุมชนเรื่องตลาดสีเขียว นำมาสู่ความเชื่อมโยงกับมูลนิธิเอ็มโอเอไทยซึ่งรับทุนจากแผนอาหารเพื่อสุขภาวะและทำงานร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) เพื่อส่งเสริมองค์ความรู้เรื่องเกษตรธรรมชาติ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการประสานความร่วมมือกันให้เกิดตลาดเขียวในโรงพยาบาล การเชื่อมโยงอาหารปลอดภัยจากชุมชนสู่ครัวโรงพยาบาล การขยายกิจกรรมร่วมกับผู้ป่วยจิตบำบัดในโรงพยาบาล รวมไปถึงสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชนอย่างแน่นแฟ้นทั้งบ้าน วัด โรงเรียน เครือข่ายบริการสุขภาพจนเกิดตลาดชุมชนและผู้คนที่ตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างความมั่นคงทางอาหารและการบริโภคอาหารปลอดภัย
โครงการเด็กไทยแก้มใส ร่วมกับโรงเรียนดรุณวิทยา เทศบาลเมืองน่าน จังหวัดน่าน นำเสนอ "น่านโมเดล" การจัดการอาหารในโรงเรียนที่บูรณาการทั้งเรื่องเกษตร อาหารปลอดภัย โภชนาการ และสุขภาพ ด้วยการทำงานอย่างเข้มแข็งของทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นเทศบาลเมืองน่านที่ให้การสนับสนุนในเชิงนโยบายอย่างเต็มที่ รวมทั้งตั้งงบประมาณด้านอาหารของเครือข่ายโรงเรียนในพื้นที่เพิ่มเติมจาก 21 บาทเป็น 24 บาทเพื่อให้เด็กนักเรียนได้รับประทานอาหารที่มีคุณภาพจากระบบเกษตรอินทรีย์ ขณะที่โรงเรียนก็จัดสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ประเด็นอาหาร ทั้งการเรียนการสอนแบบ Active Learning มีการติดตามภาวะโภชนาการนักเรียน ให้ความรู้เรื่องพฤติกรรมการกินและสร้างแกนนำนักเรียนให้รู้จักเลือกบริโภค การใช้ช่วงเวลาที่ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลาเรียนรู้ให้เกิดประโยชน์เพื่อสร้างความรอบรู้ด้านอาหาร นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้นักเรียนและผู้ปกครองปลูกผักที่บ้านเพื่อโรงเรียนจะได้รับซื้อผลผลิตมาปรุงอาหารอีกด้วย ด้านโครงการสถานีเกษตรแบ่งปัน ณ ราชบุรีนำเสนอการขับเคลื่อนและยกระดับอาหารปลอดภัยในระดับชุมชน "ราชบุรีโมเดล" โดยมีไฮไลท์เป็นขนมอร่อย ๆ ฝีมือชาวบ้านและผลิตภัณฑ์การเกษตรภายใต้แพ้คเกจทันสมัย ที่บาทหลวงวุฒิชัย อ่องนาวา ผู้รับผิดชอบโครงการย้ำเป็นนักหนาว่าทำแบบชาวบ้าน ไม่ได้ทำแบบบ้าน ๆ การทำอาหารต้องดูดีทั้งตัวอาหารที่มีคุณประโยชน์ ปลอดภัย รูปลักษณ์น่ารับประทาน แพ็คเกจและภาชนะที่ทันสมัย และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือสุขภาวะที่ดีของผู้ปรุงนั่นเอง นอกจากนี้ยังพยายามใช้ทรัพยากรบุคคลในชุมชนให้เกิดประโยชน์ ทั้งผู้สูงวัยและเด็กเยาวชนคนรุ่นใหม่ ให้พวกเขาอยู่ได้ไม่ทิ้งถิ่นฐาน ด้วยการสร้างแรงบันดาลใจในการทำเกษตรอินทรีย์เป็นกิจกรรมที่ผู้เข้าร่วมนอกจากจะได้รับความรู้จากภาคีตัวจริงที่ปฏิบัติการในพื้นที่แล้ว ยังได้รับแรงบันดาลใจที่จะพัฒนางานอาหารสุขภาวะในชุมชนกลับไปอีกมากมายเลยทีเดียว