โหนดโรงเรียน
โหนดโรงพยาบาล
โหนดผู้ผลิต-ตลาดเขียว
โหนดผู้บริโภค
กิจกรรมโครงการ
รายชื่อภาคี
สภานโยบายอาหาร (Food Policy Council) คือ แนวรวมองค์กร ผู้คน ที่ต้องการให้ระบบอาหารมีสุขภาวะสามารถปรับตัวรับมือกับวิกฤต สภา สร้างจากการเชื่อมร้อยความร่วมมือของภาคส่วน ให้เกิดการเข้าถึงอาหารที่มีโภชนาการ ความปลอดภัย บนฐานความมั่นคงทางอาหาร มีการพัฒนาเศรษฐกิจอาหารและการเกษตรที่มีคุณภาพอย่างถ้วนหน้า ด้วยการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อแก้ปัญหาระบบอาหารทั้งเชิงลึกและเชิงกว้าง ส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชนให้สามารถควบคุมอาหารที่ตนบริโภคให้มีคุณภาพดีขึ้น
หลักคิด สภานโยบายอาหาร เป็นนวัตกรรมเพื่อสังคม เป็นได้ทั้งในเชิงประเด็นและเชิงพื้นที่ ตั้งแต่ระดับตำบล อำเภอ จังหวัด พลเมืองอาหารหรือผู้คนที่ใส่ใจเรื่องอาหารร่วมมือกันพัฒนาให้ระบบอาหารตั้งแต่ต้นทางคือการผลิต การแปรรูป การจำหน่าย การกิน รวมทั้งขยะอาหาร เกิดการประสานความร่วมมือกัน ด้วยกระบวนการทางสังคม (social movement) การเชื่อมโยงภาคส่วน (multi-stakeholders) และร่วมขับเคลื่อนกับหน่วยงานภาครัฐ (government agencies) เป็น แพลตฟอร์ม สื่อสารและวงหารือทั้งทางการและไม่เป็นทางการ ที่ทำให้เกิดจินตนาการในการสร้างภาพอนาคตระบบอาหารจากความร่วมมือของส่วนต่างๆ
บทบาท ‘สภานโยบายอาหาร’
1. เป็นพื้นที่ให้กลุ่มคนสามารถมีส่วนร่วม ส่งเสียงความต้องการเกี่ยวกับอาหาร เพื่อพัฒนาระบบอาหารให้ตอบโจทย์ทุกคนอย่างเท่าเทียม เป็นสะพานเชื่อมระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคสังคมและภาคเอกชน ในการทำงานด้านอาหาร
2. เป็นแหล่งข้อมูลของนักออกแบบนโยบาย ทำให้สภานโยบายอาหารเป็นแหล่งข้อมูล ความรู้ โดยเฉพาะระดับท้องถิ่น ตั้งแต่โภชนาการ เกษตรกรรมแบบยั่งยืน และการพัฒนาเศรษฐกิจด้วยอาหาร
3. หนุนและขับเคลื่อนกระบวนการนโยบาย และหน่วยงานรัฐเห็นภาพการทำงาน เช่น การจัดซื้อจัดจ้างแหล่งวัตถุดิบสำหรับอาหารกลางวันโรงเรียนต่อการจัดสรรที่ดินเพื่อการเกษตรได้อย่างไร
4. เป็นเสมือนกระทรวงอาหาร ที่ช่วยเติมช่องว่างในการทำงานระหว่างกระทรวง หน่วยงานรัฐ ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับระบบอาหาร
5. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมและการสื่อสาร การแสดงของความเห็นของพลเมืองต่อการพัฒนานโยบายสาธารณะด้านอาหารสุขภาวะ
การขับเคลื่อน ‘สภานโยบายอาหาร’
มีสภานโยบายอาหารเกิดขึ้นมากกว่า 300 เมืองทั่วโลก หลายขนาด หลายรูปแบบ และครอบคลุมหลายประเด็นแตกต่างกันไป แต่มีสิ่งที่ร่วมกันคือ สภานโยบายอาหาร ทุกแห่งให้ความสำคัญต่อแนวคิด “ประชาธิปไตยทางอาหาร (Food democracy)” ซึ่งหมายถึง “กระบวนการที่ต้องใช้เวลา ความพยายามที่จะปรับปรุงระบบอาหารให้เอื้อต่อทุกคน ไม่ใช่เพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง” อาศัยการร่วมมือร่วมใจกันของผู้คนในสังคมที่จะทำให้อาหารคุณภาพเข้าถึงได้ในราคาที่เหมาะสม สำหรับคนทุกกลุ่ม ครอบคลุมถึงเศรษฐกิจ และความเป็นธรรมทางสังคมสำหรับกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตอาหารรายย่อยด้วย
การพัฒนา ‘สภานโยบายอาหาร’ ในสังคมไทย
นับแต่ปี 2561 ได้มีการศึกษาสำรวจแนวคิดสภานโยบายอาหาร จนถึงปี 2566 ได้รวบรวมภาคีแผนอาหารเพื่อสุขภาวะที่ขับเคลื่อนงานระบบอาหารระดับจังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียง จังหวัดน่าน จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดสงขลา รวมถึงจังหวัดนนทบุรี และพัฒนาจังหวัดนำร่องภายใต้ชื่อ ‘สภานโยบายอาหาร’ ในสองจังหวัดคือ สภานโยบายอาหารจังหวัดเชียงใหม่และสภานโยบายอาหารนนทบุรี
การขับเคลื่อนงานสภานโยบายอาหารในจังหวัดนนทบุรีและเชียงใหม่
ขั้นตอนที่ 1 มีคณะกรรมการสภานโยบายอาหารตัวแทนเสียงจากส่วนต่างๆ ร่วมวิเคราะห์ประเมินระบบอาหารในพื้นที่ ศึกษาสำรวจเชิงกลยุทธ์ และชี้เป้าทิศทาง
ขั้นตอนที่ 2 แพลตฟอร์มร่วมพัฒนาแผนที่ต้นทุนระบบอาหาร เชิงพื้นที่และเชิงประเด็น
ขั้นตอนที่ 3 ริเริ่มโครงการนำร่องเชิงกลยุทธ์เพื่อแก้ไขปัญหาอาหารในพื้นที่ และร่วมขับเคลื่อนนโยบาย
ขั้นตอนที่ 4 ผสานพลังผลลัพธ์ร่วม