โหนดโรงเรียน
โหนดโรงพยาบาล
โหนดผู้ผลิต-ตลาดเขียว
โหนดผู้บริโภค
กิจกรรมโครงการ
รายชื่อภาคี
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2563 ได้จัดประชุมเวทีถอดบทเรียนเติมเต็มความรู้การพัฒนาพื้นที่ดาวเด่น “ชุมชนอาหารในโรงพยาบาล” สู่การวางทิศทางและยุทธศาสตร์ 10 ปี แผนอาหารเพื่อสุขภาวะ โดยมีพื้นที่กรณีศึกษาดาวเด่น คือโรงพยาบาลเชียงแสน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่การทำงานโครงการขยายและพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการจัดการระบบอาหารสุขภาวะเพื่อสร้างเครือข่ายสุขภาพดี โดยมูลนิธิเอ็มโอเอไทย เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ
ถอดบทเรียนการสร้างเครือข่ายโรงพยาบาลอาหารปลอดภัยที่โรงพยาบาลเชียงแสน อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย จากการให้ข้อมูลของคุณศรีวรรณ เหลี่ยมทอง หัวหน้างานบริการปฐมภูมิ โรงพยาบาลเชียงแสน นับเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจของภาคี สสส. เพราะสามารถเชื่อมโยงกับเครือข่ายชุมชน วัด โรงเรียนเพื่อขับเคลื่อนนโยบายโรงพยาบาลอาหารปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยแนวคิดไม่รอซ่อมสุขภาพ แต่เน้นสร้างสุขภาพในเชิงรุก
คุณสุชาญ ศีลอำนวย ผู้รับผิดชอบโครงการขยายและพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการจัดการระบบอาหารสุขภาวะเพื่อสร้างเครือข่ายสุขภาพดี แผนอาหารเพื่อสุขภาวะ สสส. สรุปสถานการณ์และต้นทุนโหนดโรงพยาบาล โดยมูลนิธิเอ็มโอเอไทยทำงานกับโรงพยาบาล 12 แห่งใน 5 จังหวัด ด้วยรูปแบบการส่งผลผลิตเข้าครัวโรงพยาบาล ตลาดสีเขียว และแปลงผักบำบัด ปัญหาที่พบคือการจัดซื้อจัดจ้างที่ยังคงมีความล่าช้าเรื่องการเบิกจ่าย แม้สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุขจะแก้ไขในเบื้องต้นตั้งแต่ปี 2560 แล้วก็ตาม ปัญหาด้านบุคลากรในโรงพยาบาล ซึ่งการทำงานพบว่าหากผู้บริหารโรงพยาบาลมีความเข้าใจ แม้ไม่มีนโยบายจากกระทรวงสาธารณสุขก็สามารถขับเคลื่อนได้ นอกจากนี้ยังมีปัญหาสำคัญคือผลผลิตไม่เพียงพอ ขาดความหลากหลายและต่อเนื่อง
สำหรับการคัดเลือกโรงพยาบาลเชียงแสน จังหวัดเชียงราย เป็นพื้นที่กรณีศึกษาดาวเด่นในโหนดโรงพยาบาล เนื่องจากผู้บริหารโรงพยาบาลมีความเข้าใจ บุคลากรโรงพยาบาลร่วมมือในการแก้ไขปัญหา และมีการเชื่อมโยงกับชุมชนที่อยากให้โรงพยาบาลส่งเสริมความรู้เรื่องอาหารปลอดภัยจากสารเคมี และการกินอาหารเป็นยา แทนการกินยาเป็นอาหารอยู่แล้ว ในขณะเดียวกันโรงพยาบาลเองก็ต้องการดูแลสุขภาพเชิงรุก เน้นส่งเสริมและป้องกันให้กับชุมชน โดยพบว่าชุมชนซอย 8 ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน แม้จะมีผู้คนหลากหลาย แต่มีวัฒนธรรมดั้งเดิมคือการทำอาหารเองและนำมาแบ่งปัน รวมทั้งนำความรู้ด้านเกษตรธรรมชาติมาปลูกผักเพื่อประกอบอาหาร และมีแกนนำนักส่งเสริมสุขภาพที่สามารถเชื่อมโยงกับโรงพยาบาล นำมาสู่ความร่วมมือเพื่อจัดตั้งตลาดกองคนม่วน ของกินคนเมือง ที่ชุมชน โรงพยาบาล และภาคีเครือข่ายต่างมีส่วนร่วม