โหนดโรงเรียน
โหนดโรงพยาบาล
โหนดผู้ผลิต-ตลาดเขียว
โหนดผู้บริโภค
กิจกรรมโครงการ
รายชื่อภาคี
ชุมชนอาหารโหนดโรงพยาบาลเชียงแสน อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ภาคีโครงการขยายและพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการจัดการระบบอาหารสุขภาวะเพื่อสร้างเครือข่ายสุขภาพดี มูลนิธิเอ็มโอเอไทย ซึ่งรับทุนสนับสนุนจากแผนอาหารเพื่อสุขภาวะ สสส. ได้ดำเนินกิจกรรมตลาด “กองคนม่วน ของกิ๋นคนเมือง” และกิจกรรมต่างๆ ตามแผนปฎิบัติการที่ได้วางร่วมกันกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ตั้งแต่กำหนดนิยามชุมชนอาหาร เป้าหมาย แนวทางการเคลื่อน ตลอดจนแผนงานกิจกรรม เพื่อเชื่อมโยงการขับเคลื่อนที่เป็นรูปธรรมในการดำเนินงานอันจะเป็นประโยชน์ต่อการมองทิศทางข้างหน้าเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ 10 ปีของแผนอาหารเพื่อสุขภาวะ สสส. โดยได้ดำเนินกิจกรรมมาตั้งแต่เดือน สิงหาคม 2563 จนถึงเดือนมีนาคม 2564 เป็นเวลา 8 เดือน ทางคณะทำงานโหนดโรงพยาบาลและคณะทำงานในพื้นที่จึงได้มีการสรุปบทเรียนกระบวนการทำงาน ข้อค้นพบ ข้อสังเกตในการทำงาน ตลอดจนสิ่งที่ท้าทายในอนาคต จากเวทีการถอดบทเรียนของโครงการขยายและพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการจัดการระบบอาหารสุขภาวะเพื่อสร้างเครือข่ายสุขภาพดี เวทีถอดบทเรียนของตลาด “กองคนม่วน ของกิ๋นคนเมือง” เอง เพื่อนำไปสู่การยกร่างยุทธศาสตร์ 10 ปี ของแผนอาหารเพื่อสุขภาวะ
ความสำเร็จและปัยจัยแห่งความสำเร็จในการส่งเสริมชุมชนอาหารสุขภาวะโหนดโรงพยาบาลเชียงแสน
สิ่งที่ประสบความสำเร็จ ชุมชนอาหารสุขภาวะเชียงแสน เกิดกาดคนม่วนของกิ๋นคนเมือง สวนผักคนเวียง กาดสีเขียวในโรงพยาบาลเชียงแสน เรามีพื้นที่ต้นแบบเกษตรธรรมชาติ แปลงผักในวัดเจดีย์หลวง และร้านเวียงกรีน ร้านที่จะรวบรวมและกระจายผลผลิตสู่ผู้บริโภค ส่งผลให้สุขภาพของสมาชิกดีขึ้นทั้งจิตและกาย จากการดำเนินกิจกรรมกาด “กองคนม่วน ของกิ๋นคนเมือง” ส่งผลเกิดความร่วมมือของชุมชน มีกติกาความร่วมมือกันอย่างชัดเจน มีการประชุมประจำเดือน หลังจากประชุมสมาชิกนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เช่น ลดการใช้ถุงพลาสติก เลือกบริโภคอาหารปลอดภัยจากระบบเกษตรธรรมชาติ
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ชุมชนอาหารสุขภาวะเชียงแสนสำเร็จ มีอยู่หลายปัจจัย ปัจจัยหลัก คือ
สิ่งที่ไม่ประสบความสำเร็จคือ อาจด้วยหลายปัจจัยที่ทำให้ไม่สามารถทำได้ต่อเนื่อง เช่น กลุ่ม อสม.ไม่ได้ปรับพฤติกรรมจริง ไม่ทำต่อเนื่อง โรงเรียนไม่ทำต่อเนื่อง
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จ กลุ่มเป้าหมายที่เข้าอบรม หน่วยงานส่งเข้ามาอบรม เช่น อสม. รพ.สต. และเราไม่สามารถติดตามผู้เข้าร่วมอบรมได้
ดังนั้นการทำให้สำเร็จในอนาคตควรพัฒนาเครื่องมือ มีตัวอย่างต้นแบบให้เห็น เช่น สามีตนเองที่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจนร่างกายดีขึ้น ฟื้นตัวจากโรคมะเร็งได้ และมีความสุขจากการขายของ และอีกตัวอย่างวัดเจดีย์หลวงที่ทำเกษตรธรรมชาติภายในวัด แล้วนำผลผลิตออกมาแจกจ่ายให้กับญาติโยม เป็นต้น
ข้อค้นพบในการทำงาน
ข้อสังเกตในการขับเคลื่อนงาน
สิ่งที่ท้าทายในอนาคต
กิจกรรมที่เป็นแรงหนุน เช่น กิจกรรมพัฒนาศักยภาพแกนนำ กิจกรรมสานสัมพันธ์ กิจกรรมการประชุม เป็นต้น
กิจกรรมที่จะเคลื่อนงานต่อไป
โรงเรียน – นักเรียนมีสุขภาพกายและจิตดี ได้รับอาหารที่สะอาดปลอดภัย
ครู/นักเรียน – มีความรู้ ความเข้าใจตระหนักถึงการบริโภค ดูแลสุขภาพ และป้องกันโรค
– ร้อยละ 60 ของผู้เข้ารับการอบรมทำแปลงเกษตรธรรมชาติอย่างน้อยคนละ 1 แปลง
– ผู้ผ่านการอบรม กินผัก ผลไม้ จากเกษตรธรรมชาติวันละ 400 กรัม ร้อยละ 50 ไม่มีสารพิษตกค้างในเลือด
– โรงเรียนแต่งตั้งผู้รับผิดชอบโครงการ
– นักเรียนร้อยละ 70 นำความรู้ จากการอบรมไปใช้ชีวิตจริง